19.9.53

7 ความกลัว ของเด็กเตรียมตัวไปนอก

  1. กลัว Homesick - เป็นความกลัวที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจได้มากที่สุด เพราะกลัวโฮมซิกนั่นก็คือการคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่พี่น้อง คิดถึงเพื่อนๆ โดยเฉพาะถ้าใครไปอยู่เมืองเงียบๆ อากาศหนาวๆ แล้ว อาการโฮมซิกจะยิ่งเพิ่มทวีคูณมากเลยทีเดียวล่ะค่ะ
  2. กลัวเรียนไม่รู้เรื่อง - แน่นอนว่าไปเรียนถึงเมืองนอก ก็ต้องเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ ที่เหมือนเป็นสิ่งแปลก(ประหลาด)ใหม่สำหรับน้องๆ เรียนเป็นภาษาไทยว่ายากแล้ว นี่ต้องมาเรียนภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาที่คุ้นเคย แถมยังมีศัพท์เฉพาะทางหรือศัพท์วิชาการรวมอยู่ด้วย ยิ่งเพิ่มความยากเข้าไปอีก เลยทำให้น้องๆ หลายคนท้อใจหวาดกลัวว่าจะเรียนไหวมั้ย
  3. กลัวไม่มีเพื่อนไม่รู้ว่าจะเข้าหาเค้ายังไง ไม่รู้ว่าคบไปแล้วจะสนิทใจมั้ย จะไว้ใจได้หรือเปล่า เพราะต่างชาติต่างภาษา จะคุยกันเข้าใจอย่างจริงใจเหมือนเพื่อนที่ไทยรึเปล่านะ
  4. กลัวปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่ไม่ได้เช่น ไม่กล้าไปไหนไกลเพราะกลัวหลงทางหรือกลัวสื่อสารไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียวเพราะกลัวโจรขึ้นห้อง กลัวกินอาหารอะไรไม่ค่อยได้เพราะไม่ชิน กลัวอากาศหนาวแล้วจะไม่สบาย
  5. กลัวอ้วนขึ้น - อันนี้มักจะเป็นปัญหาของน้องผู้หญิง เพราะตามสถิติแล้วคนที่ไปต่างประเทศนานๆ มักจะกลับมาไทยพร้อมกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 7-10 กิโลหรืออาจจะมากกว่านั้น เพราะอาหารหลักก็หนีไม่พ้นพวกแป้ง เนย ชีส ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งเพาะไขมันชั้นดีทั้งนั้น
  6. กลัวเงินไม่พอใช้ - ค่าครองชีพในเมืองนอกสู๊งสูงจนหยุดไม่อยู่ เช่น ข้าวที่ไทยจานละ 30 บาท แต่ที่เมืองนอกอย่างต่ำก็ทะลุ 100 บาทแล้ว เงินจะพอใช้มั้ยเนี่ย แล้วถ้าขอคุณพ่อคุณแม่เพิ่ม เค้าจะให้มั้ยนะ ??? แล้วจะเหลือเงินให้ช้อปปิ้งบ้างมั้ย ??? ว่ากันไปโน่น
  7. กลัวแฟนนอกใจ - เป็นปัญหาใหญ่ของคนที่มีแฟนแล้ว อยู่ไกลกันขนาดนี้ เค้าจะมีแฟนใหม่มั้ย จะนอกใจเรารึเปล่า เค้าจะลืมเรามั้ย … ก็ว่ากันไปสารพัด แต่ถ้าพูดกันตรงๆ เลยล่ะก็ กว่าครึ่งจบด้วยการเลิกกันค่ะ T^T สามวันจากนารีและชาตรีเป็นอื่นก็งี้ล่ะ

17.9.53

--วิตามินซี ช่วยป้องกัน มะเร็ง กระเพาะอาหาร--

มะเร็งกระเพาะอาหาร คือมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 4 ของมะเร็งทั้งหมด และเป็นมะเร็งที่เป็นสาเหตุการตายอันดับสอง ของมะเร็งที่พบทั่วโลก การวิจัยจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐฯ และสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของประเทศฟินแลนด์ ประเมินความสัมพันธ์ระหว่าง การรับประทานผักและผลไม้ กับความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ของผู้ชายที่สูบบุหรี่จำนวน 29,000 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 50-69 ปี พบว่าการกินผลไม้และวิตามินซีนั้น ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ว่าได้ถึง 45% และผลการศึกษาอื่นๆได้แสดงให้เห็นว่า คนที่เป็นมะเร็งนั้นมีปริมาณวิตามินซีในเลือดต่ำ และพบว่าอาหารที่มีรสชาติเค็มนั้นจะมีวิตามินซีน้อย และทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าด้วย แถม สารประกอบไลโคพีนที่มีอยู่ในผลไม้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยและลดความเสี่ยง ในการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร 34%

---วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณ รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า มากกว่าการอยู่ไปวันๆ---

หากคุณรู้สึกว่าครอบครัวสำคัญที่สุด แล้วคุณใช้เวลาอยู่กับครอบครัว มากน้อยเพียงพอแล้วหรือยัง ในแต่ละวัน
หากคุณใฝ่ฝันว่า ชีวิตนี้อยากเดินทางท่องเที่ยวไปเห็นโลกกว้าง ก็เริ่มต้นออมเงิน แล้วลองหาจังหวะดีๆ วางแผนลาหยุดไปเที่ยวสักที
หากอยากก้าวไปนั่งตำแหน่งผู้จัดการแผนก ก็ลองขอโอกาสรับผิดชอบ โครงการใดสักชิ้น ที่จะทำให้หัวหน้างานคุณ มองเห็นความสามารถในตัวคุณบ้าง เป็นต้น



(นิตยสาร Health Today)

----[-ความรักคืออะไร … คนที่กล้าหาญเท่านั้นที่จะรู้ว่า “ความรัก” คืออะไร---

ความรักจะเป็นแรงผลัก ให้สร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับโลก
ความรักจะสอนให้รู้จักความอดทนและเสียสละ
จะสอนให้รู้ซึ้งกับการมีชีวิตอย่างมีค่ายิ่งกว่าบทเรียนใดๆ
ความรักจะบอกว่า การอยู่เพี่อรักใครสักคนนั้น…

---เกร็ดความรู้ ประโยชน์จากงาขาวและงาดำ----

งาดำและงาขาวมีฤทธิ์เป็นกลาง รสหวาน ส่วนน้ำมันงามีฤทธิ์เย็น แก้อาการท้องผูก ทำให้ลำไส้ชุ่มชื้น ลดกรดในกระเพาะอาหาร ลดการอักเสบของทางเดินอาหารและกระเพาะปัสสาวะ บำรุงตับและไต
เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
รักษาอาการเคล็ดขัดยอก บำรุงรากผมและผิว ช่วยให้หลับได้ดี
รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกและแผลเปื่อยติดเชื้อ

----เกร็ดน่ารู้ วิธีล้างพิษอาหาร ก่อนกิน----

ปลอดภัยด้วยสูตรขนมปัง ใช้โซดาทำขนมปัง (โซเดียมไบคาร์บอเนต) 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น 20 ลิตร (1 กาละมัง) แช่ผัก ทิ้งไว้ 15 ก่อนนำมาปรุงอาหาร
ลดสารพิษฆ่าแมลง 60-84% ใช้น้ำส้มสายชู 0.5% หรือน้ำส้มสายชู อสร. 1 ขวดผสมน้ำ 4 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15 นาที
ลดสารพิษฆ่าแมลง 54-63% เด็ดผักเป็นใบๆ ใส่ตะกร้าโปร่ง เปิดน้ำไหลแรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผัก ล้างนาน 2 นาที
ลดสารพิษฆ่าแมลง 7-33% ล้างผักรอบแรกให้สะอาด เด็ดผักออกเป็นใบๆ แช่ในอ่างน้ำนาน 15 นาที
ลดสารพิษ 50% ลวกผักด้วยน้ำร้อน ส่วนการต้มนั้นลดสารพิษได้ 50% เช่นเดียวกัน แต่จะมีสารพิษตกค้างในน้ำแกง จึงควรล้างผักลดสารพิษก่อนทำแกง
เสียปริมาณดีกว่าเสียใจ ผักที่มีกาบใบห่อหุ้มเป็นชั้นๆ เช่น กะหล่ำปลี หัวหอมใหญ่ ควรปอกเปลือกหรือลอกใบชั้นนอกออกจะสามารถช่วยลดสารพิษลงได้
ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน ผสมผงปูนคลอรีน 1/2 ช้อนชากับน้ำ 20 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15-30 นาทีจะฆ่าเชื้อโรคได้ดีมาก
ล้างผักด้วยน้ำยาล้างจาน ใช้น้ำยาล้างจานกับฟองน้ำ (หรือสก็อตไบรต์) ถูเบาๆ ช่วยลดโอกาสติดเชื้อที่อยู่บริเวณผิวของผลไม้ได้ วิธีนี้ยังเหมาะสำหรับล้างไข่ด้วย
ล้างนอกล้างใน ผลไม้ที่กินทั้งเปลือกได้ เช่น มะเฟือง สตรอเบอร์รี่ ฝรั่ง ควรล้างหลายๆ ครั้ง ใช้แปรงขนอ่อนถูเบาๆ ให้ทั่วแล้วล้างน้ำเกลือหรือน้ำสุก ส่วนผลไม้ที่ต้องปอกเปลือกก่อนจึงกินได้ เช่น มะม่วง มะละกอ สับปะรด ควรนำมาล้างก่อน จึงค่อยปอกเปลือก เพราะถ้าไม่นำมาล้างก่อน สิ่งสกปรกบนผลไม้จะติดไปกับมือหรือมีดขณะปอกผลไม้ได้ ทำให้เนื้อผลไม้สกปรก
ยาสีฟันสารพัดประโยชน์ องุ่นปกติมักจะมีคราบเหมือนยางเป็นฝ้าขาวๆ ล้างยังไงก็ไม่ออก วิธีล้างให้เด็ดผลองุ่น ออกจากพวงใส่ภาชนะบีบยาสีฟัน (อะไรก็ได้) พอสมควร ขยี้ให้ทั่วมือ ใส่น้ำพอสมควร แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าจนสะเด็ดน้ำ

---เรื่องน่าอ่าน วิธี… ขจัดความฟุ่มเฟือย----

หลีกไกลอารมณ์อยากซื้อ ใน ที่นี้หมายถึงการเดินช้อปปิ้งทุกประเภท เพราะการขายของไม่ว่าให้ห้างสรรพสินค้า หรือตลาดนัดก็ตามล้วนมีการตกแต่งร้าน ทำการตลาดลดราคาให้ดูน่าซื้อหามาเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนจะมีของ Sale ล่อตาล่อใจ ให้สาวๆ ล่องลอยเข้าไปในร้านสู่โลกแห่งความฝัน และคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นคุ้มค่าเพราะราคาถูกกว่าครึ่ง โดยที่ไม่ได้นึกถึงเลยว่าเราไม่ได้ต้องการมันสักนิด หรือไม่มันก็ยังไม่จำเป็น เพราะว่าสาวๆ กำลังติดอยู่ในอารมณ์อยากซื้อนั่นเอง ดังนั้นหนทางแก้อยู่ที่การกลับไปนอนคิดที่บ้านก่อน สักพักอารมณ์อยากตรงนั้นก็จะหายไปเอง
ใช้เวลาช้อปปิ้งมาทำงาน เอา เวลาที่คุณไปช้อปปิ้งทำงานที่ค้างไว้ หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับการงานใหม่ๆ เพราะว่าเวลาที่คุณมีอยู่สามารถสร้างเงินได้แทนการออกไปฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ยิ่งทำงานยิ่งเพิ่มเงินเยอะขึ้น ตำแหน่งหน้าที่มีการเติบโต บางทีอาจจะมีโบนัสปลายปีคอยอยู่ หากยังรู้สึกอยากจะดูของอยู่ ให้ใช้วิธีเลือกของเก่าเอามามิกซ์แอนด์แมตช์ ไว้เป็นกิจกรรมคลายเหงาของสาวชอบแต่งตัวแทน
คิดการใหญ่ไม่ฟุ่มเฟือย การ คิดการใหญ่เป็นสิ่งที่ดี เพราะหมายถึงคุณจะต้องมีวินัยในการสะสมเงินให้ได้จำนวนมากพอสมควร เพื่อเก็บไว้ซื้อของที่อยากได้จริงๆ ไม่ใช่ของกระจุกกระจิกราคาถูกที่ใช้ 3 ทีก็เจ๊ง ลองเก็บตังค์ซื้อกระเป๋าหรือรองเท้าแบรนด์เนมดูสิ เพราะของพวกนี้ใช้ทนใช้นาน ดูแล้วคุ้มค่ากว่าการซื้อบ่อยๆ แต่ของไม่มีคุณภาพกว่ากันเยอะ
ไม่พกเงินและบัตรเต็มกระเป๋า วิธี ไม่พกเงินเยอะๆ จะทำให้คุณจำกัดการใช้จ่ายได้อย่างดี รวมทั้งงดใช้เงินอนาคตของบัตรเครดิต แม้ว่าจะมีแต้มสะสมล่อตาล่อใจเท่าไรก็ตาม พกเพียงแค่ 1-2 ใบ ไว้ยามฉุกเฉินก็พอแล้ว