30.8.53
10 ความลับเรื่องแสบๆของวัยรุ่นผู้ชาย !! ที่หลายคนทำ
วัยรุ่นชายถึง 4 ใน 10 เคยโดดเรียนโดยครูและผู้ปกครองไม่เคยจับได้ซักครั้งเดียว (ถือเป็นความสามารถพิเศษ อิอิ)
อันดับ 9 เรียน รด.
สาเหตุที่ผู้ชายไม่อยากเรียน ร.ด. เพราะกลัวถูดตัดผมสั้นมากกว่าการฝึกหนัก (ห่วงหล่อมากก่าห่วงเหนื่อย!!)
อันดับ 8 ตำรวจและทหาร
อาชีพในฝันมากที่สุดของผู้ชายวัยอนุบาลถึงประถม คือตำรวจและทหาร
อันดับ 7 ทุจริตในการสอบ
วัยรุ่นชาย 80% ขึ้นไป สารภาพว่าเคยทุจริตในการสอบ(รวมถึงเล็กๆน้อยๆ)
อันดับ 6 ลอกการบ้าน
วัยรุ่นชาย 95% ล้วนเคยลอกการบ้าน
อันดับ 5 เรียนรู้
ผู้ชายจะเรียนอะไรได้ดีแบบสุดๆก้อด้วยใจรักมากกว่าความรับผิดชอบ
อันดับ 4 งานช่าง
ส่วนเรื่องงานช่างทุกประเภท ผู้หญิงไม่มีวันทำสู้ผู้ชายได้ ให้ตายสิ!!!
อันดับ 3 ทักษะการใช้ภาษา
ทักษะการใช้ภาษาวัยรุ่นชายแพ้ผู้หญิงกระจุยกระจาย
อันดับ 2 ความทะเยอทะยาน
อ๊ะๆอย่าเพิ่งดีใจ เพราะธรรมชาติสร้างควาทะเยอทะยานให้ผู้ชายมีมากก่าผู้หญิง ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ผู้ชายทุ่มเทฝนการเรียนรู้ ทำได้ดีก่าผู้หญิง (ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้ว ผู้ชายจะทำทุกเรื่องได้ดีกว่าผู้หญิงแม้สิ่งนั้นจาเป็นงานของผู้หญิง เช่น ทำอาหาร เสริมสวย การตัดเย็บ etc...)
อันดับ 1 ผู้ชายโตไวกว่าผู้หญิงโดยธรรมชาติ
ผู้ชายโตไวกว่าผู้หญิงโดยธรรมชาติ และก้อนสมองการเรียนรู้ของผู้หญิงใหญ่กว่าผู้ชาย
28.8.53
สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงสวยน้อยลง
1. สูบบุหรี่ นอกจากจะทำให้เกิดริ้วรอยยับย่นบริเวณรอบปาก บุหรี่ยังไปขัดขวางการไหลเวียนของเส้นเลือด ทำให้ปริมาณออกซิเจนผ่านไปยังเซลล์ผิวได้ไม่เพียงพอ ผิวจึงหมองคล้ำ ถ้าไม่สามารถสูบบุหรี่ให้น้อยลงได้ ควรบำรุงผิวด้วยการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำ
2. มลภาวะ สิ่งแวดล้อมเป็นพิษที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น จึงควรตื่นเช้าไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะหรือเข้ายิม เพื่อเพิ่มพลังให้ร่างกายต้านอนุมูลอิสระ แล้วทาครีมที่มีสารแอนติออกซิแดนท์ เพื่อเป็นการปกป้องผิวปิดท้าย
3. อากาศแห้ง ผิวหนังจะสูญเสียน้ำ ความชื้น และแห้งแตกราวกับเป็นเพื่อนรักกับจระเข้ ทางที่ดีหมั่นทาครีมบำรุงผิว และหาสเปรย์น้ำแร่มาฉีดเติมน้ำให้ผิวบ้าง
4. การเพิ่ม / ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ผิวก็เหมือนอีลาสติก ยืด ๆ หด ๆ บ่อยเข้าก็เหี่ยวและเสียความยืดหยุ่นเป็นธรรมดา พยายามควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม ไม่ควรลดน้ำหนักด้วยการทานยา เพราะผลจากโยโย่เอฟเฟ็คท์จะทำให้น้ำหนักพุ่งพรวด ผิวแตกลาย และเกิดเซลลูไลท์
5. การถูหรือขัดที่ผิวหน้าแรง ๆ ต้องห้าม จำไว้ว่าการแต่งหน้า หรือบำรุงผิว ต้องทำอย่างเบามือ และอ่อนโยนที่สุด ลงทุนใช้แปรงปัดแก้มที่ทำจากขนสัตว์ ฟองน้ำเนื้อดี เพื่อป้องกันรอยยับย่น
6. สะอาดเกินไป สาวอนามัย ทั้งล้าง ทั้งขัดใบหน้าจนขึ้นเงา การเสียดสีผิวมากเท่าไร ผิวก็ยิ่งหยาบกร้านได้มากเท่านั้น แถมมีโอกาสแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย
7. แอลกอฮอล์ หลังจากร่างกายเสพแอลกอฮอล์เข้าไป จะส่งผลให้ผิวแห้งจากภายในมาสู่ภายนอก ตับทรุด และทำลายวิตามินบีในร่างกาย
8. ยา ยาบางชนิดมีผลข้างเคียง ทำให้ผิวแห้ง หรือไปกระตุ้นฮอร์โมนทำให้ผิวมันกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรถามเภสัชกรทุกครั้งว่า ยาที่รับประทานมีผลอะไรต่อร่างกายอีกบ้าง
9. ท้องผูก อาการท้องผูกยังทำให้สารพิษต่าง ๆ สะสมไว้ในร่างกายและผิวพรรณ ดังนั้น ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ รับประทานผัก ผลไม้ อยู่เสมอ
10. แสงแดด เป็นตัวการทำลายผิวอยู่เป็นประจำ ด้วยยูวีเอ จะเข้าไปทำให้เกิดริ้วรอย ส่วนยูวีบี จะส่งผลให้เกิดการไหม้ แสบ ร้อน
ผู้หญิงคนไหนที่อยากสวย ก็อย่าลืมหลีกเลี่ยงสิ่งที่แนะนำให้มากที่สุด เพื่อความสวยที่ยาวนาน.
*** คติ..สอนใคร ***
เกิดจากจิต สงบนิ่ง ไม่ติงไหว
ห้วงคำนึง สร้างจาก รากฐานใจ
ก่อเกิดให้ สร้างสรรค์งาน ผ่านสายตา...
25.8.53
เรื่องจริงของวัยรุ่นไทย!!
1.อาหารสิ้นคิดของวัยรุ่นคือ ข้าวผัดกระเพรา
2.ส่วนใหญ่ที่วัยรุ่นไทยยิ้ม เพราะไม่รู้จะพูดอะไร
3.วัยรุ่นไทยมักเปลี่ยนใจง่าย
4.วัยรุ่นไทยมักเชื่อเพื่อนมากกว่าเชื่อแฟน
5.ผู้ชายที่ติดแฟน จะถูกเพื่อนรุมประนามว่า คนทิ้งเพื่อน!!!
6.วัยรุ่นไทยรู้ดีว่า การอยู่หน้าคอมเป็นเวลานานกว่า2ชั่วโมง จะทำให้สายตาเสีย ...แต่ไม่เคยมีใครอยู่หน้าคอมต่ำกว่า2ชั่วโมงเลยซักค น
7.หน้าร้านเกมติดป้าย ห้ามเด็กนักเรียนเข้าก่อน14.00น.แต่เวลา8.00น.เป็นต้ นไป จะเห็นเด็กหัวเกรียนใส่ชุดอยู่บ้านนั่งเล่นเกม เพราะ..กุเอาชุดมาเปลี่ยน
8.เมื่อวัยรุ่ยไทยนั่งเก้าอี้ในโรงหนังปุ๊ป..จะเอ่ยค ำว่า ทำไมร้อนจังวะ!!แต่หลังจากหนังผ่านไปประมาณครึ่งเรื่ อง จะได้ยินคำว่า...เมื่อไหร่จะจบวะ กุหนาว!!!
9.ทุกๆ1-2ปี จะมีคำพูดยอดฮิตและติดปาก มากในหมู่ของวัยรุ่นไทย คำพูดเหล่านั้นมาจากชายจมูกโต ที่ชื่อ โน๊ต อุดม!!!
10.ที่ร.รจะมีการเข้าแถวเคราพธงชาติทุกเช้า แต่มีกลุ่มบุคคลหนึ่ง ยอมมาสายเพื่อหลีกเหลี่ยงการเข้าแถวเคราพธงชาติ
11.ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเถียงชนะผู้หญิง..นอกจากตุ๊ด
12.วัยรุ่นชายเกลียดการเรียนร.ด แต่วัยรุ่นหญิงอยากเรียนร.ด เพราะคิดว่ามันสนุก (ต่อไปเกณฑ์ทหารหญิงด้วยเลยดีมั้ย )
13.ผู้หญิงที่น่ารัก ขาวๆ มักจะโดนผู้ชายแอบมองทุกรูขุมขนเท่าที่จะมองได้ แต่ผู้หญิงที่ตัวดำๆหน้าตาใช้ไม่ได้ มักจะโดนผู้ชาย มองทีเดียว(ด้วยความไม่ได้ตั้งใจ)และเมินสายตาหนีไปอ ย่างไม่มีเยื่อใย
14.ผู้หญิงคิดว่า ถ้าผู้หญิงบอกเลิก แสดงว่าผู้หญิงน้อยใจ แต่ถ้าผู้ชายบอกเลิกแสดงว่า กุทนไม่ไหวแล้ววว!!!!
15.เวลาเรารู้สึกเกลียดหรือไม่ชอบเพลงไหน เรามักจะร้องเพลงนั้นได้
16.ผู้ชายไม่สามารถดูหนังโป้ได้จบเรื่อง!!
17.หลังจากออกจากห้องสอบ คำแรกที่คุณพูดเมื่อเห็นหน้าเพื่อนคือ...ทำได้ป่าววะ ?
18.และคุณจะหัวเราะเมื่อเพื่อนบอกว่า...กุมั่ว!!!
24.8.53
... เธอทุกข์ - ฉันทุกข์ เธอสุข – ฉันสุข...
คอยรอ ยามเพื่อนสาย คอยพาย ยามเพื่อนพัก
คอยทัก ยามเพื่อนทุกข์ คอยปลุก ยามเพื่อนท้อ
คอยง้อ ยามเพื่อนงอน คอยสอน ยามเพื่อนผิด
คอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ คอยเจอ ยามเพื่อนหา
คอยลา ยามเพื่อนกลับ คอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน
คอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว คอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น
คอยเย็น ยามเพื่อนร้อน คอยหอน ยามเพื่อนเห่า
คอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ คอยอุบ ยามเพื่อนปิด
คอยคิด ยามเพื่อนถาม คอยปราม ยามเพื่อนหลง
คอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง คอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด
คอยอด ยามเพื่อนทาน คอยคาน ยามเพื่อนล้ม
คอยชม ยามเพื่อนชนะ คอยสละ ยามเพื่อนชอบ
ที่มาของ กลอนเพื่อน : hilight.kapook.com
23.8.53
... รักหนอรัก ...
" คนเหมือนกัน ทนทำไม "
จะไปทัก ทำไม คนไม่สน
จะไปแคร์ ทำไม เราก็คน
มันก็คน เราก็คน ทนทำไม
11.8.53
my mother
Mother is a part of Love.
Mother is a part of our Strength.
Mother is a part of our Winning.
Mother is a part of who direct us to right path to proceed.
and ..and ..so on..
I Love my Mother very much.....
Don't let ur Mother get away from u....
Happy Mother's Day..
ขอขอบคุณ กลอนวันแม่ภาษาอังกฤษ : poemsforfree.com
9.8.53
วีรกรรมสุดยิ่งใหญ่ของแม่....ที่ลูกทุกคนควรอ่าน
ตึกเซนต์หลุยมารี แผนกประถม ราวปี พ.ศ. 2539
เสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น … มิสค่ะ … ช่วงพักเที่ยงจะมีผู้ปกครองมารอพบสองท่านที่หน้าห้องนะคะ โทรศัพท์แจ้งจากห้องประชาสัมพันธ์ ทำให้มิสอุไรพร นาคะเสถียร ครูประจำชั้น ป.4 รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะจำได้ว่านัดหมายแค่คุณแม่ท่านเดียวเท่านั้นในวันนี้
เอ… ใครละเนี่ย จะมีเรื่องอะไรรึปล่าวนะ เมื่อมาถึงห้อง ครูสาวแทบยกมือรับไหว้จากสุภาพสตรีทั้งสองท่านไม่ทัน หากแต่รูสึกแปลกใจที่เห็นคุณแม่ท่านหนึ่งยกมือไหว้แต่เพียงแขนข้างเดียว
อย่างไรก็ตาม มิสได้เชิญคุณแม่ท่านแรกเข้าไปคุยก่อนตามลำดับการนัดหมาย โดยเก็บงำความแปลกใจไว้ หลังจากคุยกับคุณแม่ท่านแรกเสร็จ จึงได้เชิญคุณแม่อีกท่านเข้ามาคุยในห้องรับรอง
… ภาพแรกที่ได้เห็นชัด ๆ ทำให้ครูสาวตกใจเล็กน้อย แขนซ้ายของคุณแม่เป็นแขนเทียม คุณแม่มาปรึกษาเรื่องการเรียนของลูก เพราะไม่ได้มาในวันนัดพบผู้ปกครองประจำปี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ลูกเขาไม่อยากให้มา เขาบอกว่าอายพื่อนที่แม่ใส่แขนเทียม กลัวโดนเพื่อนล้อ ว่า แม่แขนเดียว แม่เป็นหุ่นยนต์หรอ อะไรนี่นะคะ เลยไม่ได้มา น้ำเสียงคุณแม่แฝงแววเอ็นดูมากกว่าที่จะโกรธหรือไม่พอใจ
มิสอุไรพร ขออนุญาตซักถามเกี่ยวกับสาเหตุที่คุณแม่ต้องใส่แขนเทียม เมื่อได้ทราบความจริง ครูสาวตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องจัดการเรื่องที่ลูกไม่ยอมรับและไม่เข้าใจแม่ หากปล่อยเรื่องนี้ไป… จะเป็นตราบาปอันหนักยิ่งติดตัวเด็กไปภายหน้า ทั้งตัวลูกชายและคนที่ล้อเพื่อนที่ล้อเพื่อนด้วย
ช่วงเย็นวันนั้นมีชั่วโมงลูกเสือแต่ฝนตกหนัก มิสอุไรพร จึงได้โอกาสนำเรื่องนี้มาเล่าให้นักเรียนฟัง เรื่องราวที่ว่านั้น ความดังนี้…
วันที่ 21 สิงหาคม 2536 หลังวันแม่ไม่กี่วัน… ครอบครัวหนึ่งเดินทางไปเที่ยวนากุ้งที่จังหวัดสตูล ประกอบด้วย พ่อแม่และลูกชายอีกสามคน พวกเขาเดินชมนากุ้งไปตามทางเดินซึ่งเป็นคัดดินเล็ก ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ โดยมีคุณพ่อเดินนำหน้ากับลูกชายคนโตสองคน ส่วนคุณแม่เดินตามหลังกับลูกชายคนเล็ก
ทางเดินที่เป็นคันดินนั้นมีการแบ่งเป็นท้องร่องเพื่อติดตั้งระหัดวิดน้ำซึ่งมีใบพัดเหล็กสูงจากคันดินราว 25 ซม. คุณพ่อและลูกชายคนโตสองคนข้ามท้องร่องแล้วเดินนำต่อไปข้างหน้า ไม่มีใครฉุกคิดระวังถึงเหตุร้าย แต่แล้วลุกชายคนเล็กกลับก้าวพลาดล้มลงไปในท้องร่อง ขากางเกงเข้าไปติดกับร่องของระหัดวิดน้ำที่กำลังหมุนอยู่และฉุดขาของลูกทั้งสองข้างเข้าไปในใบพัดเหล็ก ถ้าเป็นพวกคุณ คุณจะทำอย่างไร …
มิส หยุดเรื่องไว้ เพื่อซักถาม มองหน้านักเรียนทั้งห้องที่นั่งเงียบกริบ หน้าซีด โดยเฉพาะลูกชายของคุณแม่ท่านนั้น
แต่นักเรียนรู้มั้ยว่า คุณแม่ท่านตัดสินใจอย่างไร คุณแม่ไม่ยอมเสียเวลาคิดอะไรเลยท่านรีบดึงตัวลูกเอาไว้ แล้วเอาแขนซ้ายที่ว่างอยู่เข้าไปขวางใบพัดไว้ก่อน…
ใบพัดหมุนแขนของคุณแม่เข้าไป … คนงานที่เห็นเหตุการณ์จึงรีบปิดเครื่องแต่แรงเฉื่อยยังทำให้ใบพัดหมุนด้วยกำลังแรง … แรงเสียจนกระชากแขนซ้ายคุณแม่ ขาดสะบั้นลง !
คุณแม่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสสติสัมปชัญญะดับวูบลงในทันทีท้องร่องบริเวณนั้นแดงฉานไปด้วยเลือด … เลือดของแม่ …
ใบพัดเหล็กยังหมุนต่อไปอีกเล็กน้อยและบดเอาขาทั้งสองข้างของลูกชายคนเล็กจนกระดูกหัก แต่ไม่ขาด ไม่ขาดเพราะ… เพราะแขนซ้ายของแม่ขาดแทน .. ไม่ขาด เพราะแม้ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ มือขวาของแม่ยังยึดตัวลูกเอาไว้แน่น … ไม่ยอมปล่อย …
คุณพ่อและลูกคนโตทั้งสองคนหันกลับมามองตามเสียงตะโกน เอะอะโวยวายของคนงาน พร้อม ๆ กับเสียงกรีดร้องของคุณแม่ ภาพที่เห็นทำให้พวกเขาช๊อกแทบสิ้นสติ … คุณพ่อรีบกระโจนพรวดเดียวถึงตัวแม่และลูกน้อย …
แต่… มันสายเกินไปแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้ คือ รีบพาทั้งสองส่งโรงพยาบาลทันที ผลการรักษา คุณแม่ต้องใส่แขนเทียมแทนที่ขาดไป ส่วนลูกชายคนเล็ก ที่ขาหักต้องพักฟื้นนานราวสามเดือน จึงสามารถเดินได้ เป็นปกติ
มิสอุไรพร กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วถามว่า นักเรียนคิดว่าคุณแม่ท่านนี้กล้าหาญไหมคะ เด็ก ๆ พากันตอบเป็นเสียงเดียวกันพลางพยักหน้า หลาย ๆ คนยังหน้าซีดเซียว เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ตามที่ครูเล่า
มิส มองหน้าลูกชายของคุณแม่แล้วบอกว่า … นักเรียนทราบไหมว่าคุณแม่ท่านนั้นเป็นคุณแนคุณแม่ของเพื่อนเราในห้องนี้เอง ไหน ใครเป็นลูกของคุณแม่ท่านนั้น ยืนขึ้นให้เพื่อนเห็นหน่อยสิ… เด็กคนนั้นยืนขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือของเพื่อน ๆ ทั้งห้อง “วันนี้เมื่อคุณกลับไปบ้าน มิสฝากเรียนคุณแม่ด้วยว่า พวกเราชื่นชมและยกย่องท่านมาก ๆ”
มิสได้ทราบว่ามีหลาย ๆ คนไปล้อเลียนเพื่อน ไหนคนไหนบ้างคะที่เคยล้อคุณแม่เขา ถ้ามี เราลูกผู้ชายต้องกล้ารับค่ะ
มีนักเรียน 3-4 คน ยืนขึ้น ใบหน้าของแต่ละคนรู้สึกสำนึกผิด แล้วมิสก็ถามว่า ดีมากนักเรียน ตอนนี้คุณคงมีอะไรอยากจะพูดกับเพื่อนใช่มั๊ยคะ
เด็กชายกลุ่มนั้นเดินเข้าไปโอบกอดคอ แล้วกล่าวขอโทษเพื่อนด้วยความจริงใจ ครูสาวน้ำตาคลอเบ้า ยืนมองภาพนั้นด้วยความปลาบปลื้มใจ
ใครเล่า … จะเข้าใจความเจ็บช้ำ ขมขื่นในหัวใจเล็ก ๆ ของเด็กชายคนหนึ่ง ที่ถูกเพื่อนล้อเลียนประสาเด็กไม่ทันคิด
หากบัดนี้ … ความรักของแม่และน้ำใจของเพื่อน ๆ ได้สลายปมด้อยในใจของเขาไปจนสิ้น เหลือเพียงความรักและความภาคภูมิใจในตัวคุณแม่เท่านั้น
เมื่อหมดชั่วโมงเรียน มิสได้เรียกลูกชายคุณแม่ เข้าไปคุยอีกครั้ง “วันนี้เรามีอะไรในใจที่คิดว่าควรพูดกับคุณแม่ม้ยคะ” เด็กคนนั้นนิ่งคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบเสียงสั่นปนสะอื้นว่า ….
“ผม… ผม จะไปขอโทษคุณแม่ แล้ว… บอกคุณแม่ว่า ผมรักคุณแม่มากที่สุดในโลกเลยครับ”
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2553
" แผ่นดินนี้แม่ของลูกใช้ปลูกข้าว กี่แสนก้าวที่เดินซ้ำย่ำหว่านไถ บำรุงดินจนอุดมสมดังใจ หวังนาไทยเป็นของไทยไปนิรันดร์ "
” แม่ของแผ่นดิน ”
เทิดองค์วงศ์จักรี มหาราชินี ศรีราชัน
พระแม่ของแผ่นดิน เคียงภูมินทร์พระปิ่นขวัญ
ปกไทยไม่เว้นวัน นับอนันต์สร้างสรรค์ไทย
เกื้อผลชนมีงาน ทุกโครงการประสานใจ
สืบศาสตร์ศิลป์สดใส สร้างรายได้ให้ปวงชน
โครงการป่ารักน้ำ ดินชุ่มฉ่ำล้ำเลิศผล
เอื้อสุขไทยทุกคน ผลเมตตาพระบารมี
เจ็ดสิบเจ็ดพรรษาแพร้ว ร่มโพธิ์แก้วแพรวราศี
เชิญพรไตรภพทวี ถวายพระองค์ทรงพระเจริญ
” วันนี้คุณบอกรักแม่รึยัง ??? ”
ความพันผูกแนบแน่นสุดขานไข
เริ่มหัดเดินหัดพูดแม่สุขใจ
ก้าวแรกได้ให้ลูกด้วยผูกพัน
แม่เป็นครูคนแรกของชีวิต
ชี้ถูกผิดให้ลูกเลือกดั่งใจฝัน
ยามเจ้าโตรวยจนไม่สำคัญ
ขอลูกฉันเป็นคนดีของสังคม
” กราบเท้าแม่ ”
จะหาไหน มาเทียบ เปรียบแม่ได้
แม่รักลูก ฟูมฟัก จากดวงใจ
รักจากใคร ก็มิแม้น มาแทนทัน
บรรจงกราบ แทบเท้า ของคุณแม่
ปิติแผ่ ซาบึ้ง จึงเอ่ยขาน
บทกวี ร้อยกรอง ด้วยกลอนกานท์
ก้มกราบกราน แม่เรา ทุกเช้าเย็น
ลูกทุกข์...แม่ทุกข์กว่า ลูกเจ็บ...แม่เจ็บกว่า
เรื่อง : ฐิตินาถ ณ พัทลุง
ภาพประกอบโดย Kapook.com
หลายปีมาแล้ว เช้าวันธรรมดาวันหนึ่ง ฝนตกพรำๆ ตั้งแต่เช้ามืด สองแม่ลูกจูงมือกัน เพื่อแม่จะไปส่งลูกน้อยขึ้นเรือไปโรงเรียน ที่โป๊ะเทียบเรือท่าน้ำศิริราช คนเบียดเสียดกันแน่น แม่กับลูกน้อยเบียดคนลงไปในโป๊ะ เพราะดีกว่าเปียกฝนที่เริ่มลงเม็ดหนาตา พอเห็นเรือที่ขาดช่วงไปนานกำลังจะเข้าเทียบท่า คนก็ยิ่งลงมาบนโป๊ะ หลายคนตะโกนบอกให้คนถอยกลับไป เพราะโป๊ะจะรับน้ำหนักไม่ไหว
ก่อนที่ใครจะรู้ตัว โป๊ะใหญ่ทรุดตัวลงไปในแม่น้ำ ท่ามกลางคลื่นลมแรง ทุกคนตะเกียกตะกายว่ายน้ำหนีมาขึ้นฝั่ง แม่ของเด็กน้อยถูกลากขึ้นมา เธอร้องตะโกน "ช่วยลูกฉันด้วย ช่วยลูกฉันด้วย ลูกฉันว่ายน้ำไม่เป็น" ฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ทุกคนพยายามเอาชีวิตรอด ไม่มีใครทันสังเกตเห็นหัวเล็กๆ ที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กลางแม่น้ำ
ก่อนที่ใครจะทันรู้ตัว แม่คนนั้นกระโดดลงไปในแม่น้ำ ตะเกียกตะกายไปคว้าลูกน้อยไว้ ก่อนที่คลื่นจะซัดสองแม่ลูกไกลออกไปจากฝั่ง เธอว่ายน้ำไม่เป็น ภาพสุดท้ายที่ทุกคนเห็นคือ แม่กอดลูกแนบไว้กับอก ก่อนจะค่อยๆ จมหายไป แม่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่เธอก็เอาชีวิตโอบอุ้มลูกรักไว้ จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ในชีวิตคนคนหนึ่ง จะมีใครสักกี่คน ที่ยอมแลกชีวิตเขาเพื่อเราได้
แม่ของเราอาจจะไม่ได้กระโดดน้ำลงไปช่วยเรา แต่ทุกครั้งที่เราจมลงไปทะเลทุกข์ แม่กระโดดลงไปอุ้มเราแนบไว้กับหัวใจแม่ตลอดเวลา
เบื้องหลังความสำเร็จ การฝ่าฟันจนพ้นวิกฤติของคนมากมาย มีมือเล็กๆ ของแม่อยู่เบื้องหลัง